วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

FINAL PROJECT ( Artist in Residence at koh kret )


แผนผังเกาะเกร็ดทั้งหมด ซึ่งไซท์ที่เราได้เป็นไซท์ 2 ตั้งอยู่บริเวณ อบต.เกาะเกร็ด


สภาพแวดล้อมโดยรอบ ไซท์ที่กำหนดเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู  มีทางสัญจรเป็นท่าน้ำ และถนนขนาดพาหนะเล็กเข้าได้  



การออกแบบนั้นได้แนวคิดมาจากความเป็นไทยและการอนุรักษณ์บนเกาะเกร็ด 
แม้ว่าในอดีตจะมีชนกลุ่มพม่ามอญอาศัยอยู่แต่ก็มีการรวมกลุ่มก้อนกลายเป็นวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม
สืบสานกันต่อมา ทำให้ในปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังสะท้อนภาพให้เห็นถึงวัฒนธรรมไทย
ที่ควรค่าแก่การอนุรักษณ์ ทั้งการอยู่กิน เครื่องคาวหวาน ขนมไทยโบราณ และเครื่องปั้นดินเผา


และเนื่องด้วยบ้านเรือนบนเกาะนั้นไม่ได้ทันสมัยหรือโมเดิร์นอะไร
  เราจะสร้างโมเดิร์นให้ขัดแย้งกับความเป็นไทย
ที่แฝงอยู่บนความเก่าแก่ก็ใช่เรื่องอยู่ บวกกับความสับสน มึนงงและปั่นป่วนนิ่วในเนื้อถั่วงอก

เลยต้องยอมรับว่าดีไซน์ที่ออกมานั้น  ดูเก่า โบราณ  คือไม่มีดีไซน์อะไรใหม่ๆนั่นแหละนะ
แงง
T__________T

อันจะนำมาซึ่งคอนเซปท์....

"มัน  ไทย  มาก"




ฟังก์ชันการใช้งานที่กำหนดขอบเขตของงาน คือ ไม่เกิน 250  ตรม . จากพื้นที่ 600 ตรม.
มีการจัดสรรการใช้สอยพื้นที่ให้ตัวสมมติในบ้าน  คือ

ลุงหมาก - ข้าราชการบำนาญภาคพืชศาสตร์
= มีสวนส่วนตัวให้ลุงปลูกพืชบนบ้าน
(ถูกอ.แนะว่า ไม่ควรยกสวนขึ้นมาเพราะมันมีดินอยู่ข้างล่างแล้ว)
ป้าทับทิม - ปรมาจารย์ด้านการทำขนมไทย
= บริเวณครัวเชื่อมต่อกับส่วนรับแขก และห้องน้ำแขก สามารถสาธิตการทำขนมได้
คุณปูรณ์ - เจ้าของกิจการเครื่องปั้นดินเผา
= มีศาลานั่งปั่นเครื่องปั้นให้คุณปูรณ์ซึ่งศาลานี้ก็อยู่ในสวนของลุกหมากอีกที
ศิลปินที่มาพักระยะสั้น 3-6 เดือน 
= เราตัดขาดจากเจ้าของบ้านไป คือจะเชื่อมต่อกับส่วนบ้านแค่ส่วนแสดงผลงาน
ต้องการให้ศิลปินมีความเป็นส่วนตัว



และจากที่เห็น
แปลนที่ต้นไม้อัดเต็มมาก  กลัวคนไม่รู้ว่าเรียนภาคแลนด์ 
ไม่ได้รู้จักต้นไม่อะไรเยอะแยะหรอกนะ
แต่ต้นไม้ทุกต้นนี่เรามิได๊มั่วนะเออ มันมีอยู่จริงมิใช่ปรัมปราอยากวาดก็วาด

หาได้จากในเว็บทั่วไปเนี่ยแหละจ้า พวกทนน้ำท่วมขัง ปลูกริมน้ำได้ อึด บึกบึน




หลังคาปั้นหยา

//
รูปด้าน  พัดลมมันแรง เลยคว้าของมาวาง สมองที่ประสาทรับความรู้สึกช้าไปหนึ่งปีแสงก็เพิ่งรับรู้เนี่ยแหละว่า จะเอาเต่ามาวางทำไมละวะค่ะเนี่ย!!!  หาอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไร
แต่ก็ช่างเถอะ ถ่ายเสร็จสรรพละ  ...

( _  _'' )

มาต่อกันที่รูปด้านที่(คิดไปเองว่า)อลังกับดีเทลของมันสุดๆ 
ทำให้เสียเวลาไปหนึ่งชีวิตเต่า  รูปด้าน 4 รูปนี่ล่อไปสองวันฟ่าจ้า แม่คู้น




(กล้องพานอรามาไม่ได้ ตัดแปะห่วยหน่อยนะคะ =''= )


รูปด้านกว่าจะเสร็จมันเลยเป็ฯผลกรรมต่อไปถึงสภาพโมเดลที่ไม่เสร็จในขั้นต่อไป
*หัวเราะ*



รูปตัดที่แสดงห้เห็นถึงเสาคอนกรีตที่ต่อกับเสาไม้ส่วนบนและตีพื้นไม้  มีคาน มีตง
และไม่ได้ถมดำ  55
และมั่ว
และน่าเกลียด -  -


ทัศนียภาพบริเวณทางขึ้นหน้าบ้าน  และภายในบริเวณที่นั่งพ้นรับแขกของบ้าน

....

และ ผ่างงง !  โมเดลบ้านที่ไร้ซึ่งเสา  โอ้เย #



งานนี้ความรู้สึกส่วนตัวคือเหมือนเราไปหาแบบบ้านไทยมาซักหลังแล้วเราก๊อบดีเทลมาใส่เลย
มันไม่ให้ความรู้สึกมีที่มาเท่าไหร่
และยังจะแอบไปเติมงานอีก คือแอบตัดเสาไปนั่งเติม ผลคืออาจารย์จับได้  
ไม่ฮาเลยอ่ะ  อายด้วย  อยากกราบขอโทษอาจารย์ซักพันครั้ง 
คราวหลังหนูจะไม่ทำอย่างนี้อีก และจะทำงานให้ดี  มีความคิดมากกว่านี้  ทำให้เสร็จให้มันทันกว่านี้
จะไม่มีมาแบบนี้อีก   หนูสัญญาค่ะ
ฮืออ




//บ้านที่ไม่มีเสา  เวลาหอบไปมามันก็ไม่มั่นคงแบบเนี้ยแหละ เฮ่อ*

SHOP HOUSE



ตำแน่งที่ตั้งโครงการโรเจคต์นี้อยู่ข้างมหาลัยฝั่งประตูงามวงศ์วาน 1
ในซอยที่ส่วนใหญ่เป็นหอพักหญิง

ต้องสร้างบ้านที่เป็นที่ขายของด้วย และเราพักกับหุ้นส่วนของเรา แต่หุ้นส่วนก็ต้องมีอีกห้อง
พื้นที่ใช้สอยรวมต้องไม่เกิน 120 ตรม.


จากการวิเคราะห์ที่ว่าส่วนใหญ่เป็นหอหญิง  มีผู้หญิงเดินเพ่นพ่าน 
ผู้หญิงชอบกิน แม้จะกลัวอ้วน แต่ก็ชอบกินจุบจิบ และร้านแถวนั้นมีแต่ขายอาหาร ขายน้ำปั่น 
ร้านสะดวกซื้อ  ไม่มีร้านเค๊กในรัศมีโดนรอบ  อีกทั้งผู้หญิงน่ะ ชอบเม้าท์มอย
ชอบถ่ายรูปกับอะไรที่มันน่ารักๆ หวานๆ  มันคืออะไรล่ะ ? 

มันก็เลยกลายเป็นทีมาของ "โปรออกแบบร้านเค๊ก" จ้า


ด้วยความขี้เกียจส่วนตัว เลบวาด bubble diagram ลงบนแผ่นใสติดนาบเปิดปิดไปกับแปลนมันซะเลย
โดนว่าเลย แป่ว ! 55 


ผังบริเวณชั้นสองมีห้องน้ำชั้นบน  ห้องเราห้องนึง ห้องพาร์ทเนอร์ก็อีกห้องนึง
จะอยู่ด้วยกันค่อยว่ากันอีกที 555 + 

แต่การจัดห้องยังไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น




ภาพด้านหน้ากับด้านข้าง  ได้แรงบันดาลใจมาจากลักษณะของเค๊กที่เวลาเรากินด้วนกันเป็นเค๊กปอนด์ก้อนใหญ่ๆ เราจะต้องมีมีดมาตัดแบ่งเป็นส่วนๆตามจำนวนคน มันให้อารมณ์ความสุข
เฉลิมฉลองอะไรซักอย่าง เลยนำเหตุผลตรงนี้มาออกแบบทางสถาปัตยกรรม
มีความเว้าแหว่งจากศูนย์กลาง ออกเป็นเหลี่ยมๆ
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าหลังคา Lean to เป็นมีดกำลงตัดด้วยนะเออ  > < 



เป็นภาพตัดที่เน่าและค่อนข้างมั่ว  ไม้กับปูนมาอะไรยังไง ไม่ค่อยชัดเจน
-  -*


ภาพทัศนียภาพภายในและภายนอก  ภาพภายนอกแลดูเป็นภาพด้านเสียมากกว่า

มาดูเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งใจทำยิ่งกว่าสิ่งที่ควรจะทำในงาน
เสียเวลาไปเยอะเพื่อสิ่งเนี่ยล่ะ

แช่แฟ้บบบบเอ้ย  ! 





ชั้นบนบ้าน




(ทางเข้าไม่สนับสนุนกับสถาปัตยกรรม ไม่เชิญชวนให้เข้า)





//แมงมุมยังมาแอบมานอนตายบนหลังคาบ้านอย่างเปิดโล่งและโจ่งแจ้ง
ให้ความรู้สึกร้างดีแท้เหลา**






"ต้องรอด!" โปรเจคต์



แค่ชื่อโปรเจคต์ก็สร้างความหนักใจและรันทดใจให้กับเราเป็นอย่างมากตลอดโปร  
จะรอดมั้ย  จะรอดมั้ย  ?
แต่สุดท้ายมันก็ผ่านมาและ  (ชื่อโปรสร้างความหวาดระแวงได้อารมณ์สุดๆ ....=   = )

ต้องสร้างบ้านขนาดไม่เกิน 30 ตรม. และสร้างให้พ้นน้ำท่วมสูงขนาด 1 เมตร
ไม่มีน้ำไม่มีไฟฟ้า แต่ถ้าจะใช้เครื่องปั่นไฟต้องคิดนวัตกรรมหรือระบบมาด้วย
และมีเรือไว้นั่งไปทำงานหรือออกไปซื้อของมาตุนอีกหนึ่งลำ


ต้องกำหนดสภาพแวดล้อมเองว่าอยากให้บ้านตัวเองท่วมที่ไหน 
เลยกำหนดอยู่ในชุมชนทั่วไป  เพราะด้วยเหตุที่ว่าถ้าเราไปอยู่เปลี่ยวๆ 
จะไม่มีคนอยู่เลยมันจะยิ่งเครียด เหว่ว้า สิเนาะสิแนะ
และเวลาเราต้องการความช่วยเหลือ ก็อาจจะขอความช่วยเหลือได้ง่าย
 หรือเราอาจช่วยเพื่อนบ้านก้ได้


ต้องรู้จักรังวัดการใช้งานจริงของเรา  ขนาดสัดส่วน



เป็นบ้านแบบห้องๆนึงเลย  ซิมเปิลแปลนสุดๆ เน้นความเรียบ  ง่าย  ส่วนนอน ห้องน้ำ
ที่เก็บเสบียง ที่นั่งอ่านหนังสือ  พื้นที่เดินเอี้ยวตัว  บิดส่วนเกิน เล็กๆน้อยๆ

ไอเดียดีไซน์ ได้มาลอยๆ มันมาจากความตื่นตระหนกในสถานณการณ์น้ำท่วม แต่มีความเตรียมพร้อม
ตื่นตัว ถึงแม้จะหยักหัก แต่ก็มีส่วนยึดเหนี่ยว ทำให่บ้านดูเป็นที่รั้งที่อาศัยชั่วคราวได้อย่างปลอดภัย

และยังแอบตากปลาเค็ม  ผึ่งหมู  อะไรได้ด้วยนะเออ  เก๋ๆ 


เซคชั่นให้เห็นถึงโครงสร้างของบ้านที่เป็นโครงสร้างไม้  มีถังพลาสติกหรือวัสดุที่ลอยน้ำได้และรับน้ำหนักได้มาก  ตัวบ้านมีการโยงเข้ากับเสาตอม่อ  เมื่อน้ำไม่ท่วมบ้านก็จะอยู่บนฐานดิน แต่ถ้าน้ำท่วม 
บ้านก็จะลอยสูงขึ้นแต่จะไปหลุดไปกับน้ำเพราะถูกยึดอยู่อย่างมั่นคง


ระบบไฟฟ้า - ใช้แผงโซลาร์เซลล์ ติดตัวแปลงติดตั้ง เก็บกระแสไฟไว้ใช้ในเวลากลางคืน
(แต่อาจจะต้องลงทุนสูงมว๊ากกกก  ซึ่งถ้าคิดในระยะการใช้งานสั้นๆ อาจจะไม่ค่อยคุ้ม
เพราะระบบโซลาร์เซลล์จะเหมาะกับการใช้งานจำพวกโรงงานมากกว่า)
ระบบสุขาภิบาล - จะใช้ระบบการย่อยสลายโดยมีถังบรรจุจุลินทรีย์ EM ติดตั้งอยู่ใต้ห้องน้ำเพื่อย่อยสลายและเร่งการตกตะกอนของสิ่งปฎิกูล
ระบบประปา- มีถังเก็บน้ำ และมีการบำบัดน้ำมาใช้  



บ้านเราที่สามารถสู้น้ำท่วมได้ แต่เพื่อนบ้านเราเอาไม่อยู่ จมน้ำไปตามๆกัน
.
.
.

อ้างอิงจาก
http://www.dpt.go.th/download/PW/floating_house/detail.html
http://www.greenpower.9nha.com/solarcell.html